รีวิวหนัง The Day the Earth Stood Still (2008) วันพิฆาตสะกดโลก หนังดี แอ็คชั่นสุดอลัง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง

ประเภทของภาพยนตร์ : ผจญภัย / ดราม่า / ไซไฟ / ระทึกขวัญ

กำหนดฉายในประเทศไทย : 12 ธันวาคม 2008

ผู้กำกับ : สก็อตต์ เดอริกสัน

นักแสดงนำโดย : คีอานู รีฟส์ , เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ , เจเดน สมิธ , จอห์น คลีส , จอน แฮมม์ , แคธี่ เบตส์

 

เรื่องย่อ : 

เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ปีพ.ศ. 2471 นักปีนเขาผู้โดดเดี่ยวซึ่งกำลังสำรวจเทือกเขาคาราโครัมในอินเดียได้พบกับทรงกลมเรืองแสง เขาหมดสติ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา ทรงกลมนั้นก็หายไป และมีรอยแผลเป็นบนมือของเขา ดูหนังออนไลน์

ในปัจจุบัน วัตถุที่เคลื่อนที่เร็วถูกตรวจพบนอกวงโคจรของดาวพฤหัสบดี และคาดว่าจะพุ่งชนและทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบน โลกรัฐบาลสหรัฐฯ รีบรวบรวมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ รวมถึงเฮเลน เบนสันและไมเคิล แกรนิเออร์ เพื่อนของเธอ เพื่อวางแผนเอาชีวิตรอด วัตถุนั้นชะลอความเร็วลงอย่างกะทันหัน และตกลงมาในแมนฮัตตันโดยเผยให้เห็นว่า เป็นยานอวกาศทรงกลมขนาดใหญ่ 

เฮเลนและนักวิทยาศาสตร์มาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วพร้อมกับกองกำลังทหาร มนุษย์ต่างดาวปรากฏตัวขึ้น และเฮเลนเดินหน้าไปทักทายมัน แต่ท่ามกลางความสับสน มนุษย์ต่างดาวกลับถูกยิง หุ่นยนต์มนุษย์ขนาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้น และทำให้ทุกอย่างในบริเวณใกล้เคียงหยุดทำงานชั่วคราวโดยส่งเสียงแหลมสูง ก่อนที่มนุษย์ต่างดาวที่บาดเจ็บจะออกคำสั่ง "กลาตู บาราดา นิกโต" เพื่อหยุดการตอบสนองการป้องกันของหุ่นยนต์

นักวิทยาศาสตร์นำเอเลี่ยนไปในห้องทดลองซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้ว่าผิวหนังภายนอกของมนุษย์ต่างดาวเป็นชุด อวกาศ ที่ผ่านการดัดแปลงทางชีวภาพซึ่งประกอบด้วย วัสดุที่คล้าย รกที่คลุมสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์ หลังจากที่กระสุนถูกดึงออกในระหว่างการผ่าตัด สิ่งมีชีวิตนั้นก็แก่ตัวลงอย่างรวดเร็วเป็นคลาทู ซึ่งมีลักษณะเหมือนนักปีนเขาจากปี 1928 

คลาทูแจ้งให้ เรจิน่า แจ็ค สัน รัฐมนตรีกลาโหม ทราบ ว่าเขาเป็นตัวแทนจากกลุ่มอารยธรรมดาวเคราะห์ที่ถูกส่งมาเพื่อพูดคุยกับผู้นำของโลกเกี่ยวกับการช่วยโลกจากการทำลายล้างระบบนิเวศ เมื่อแจ็คสันส่งเขาไปสอบสวนแทน คลาทูจึงหนีออกมาและติดต่อกับเฮเลนและเจคอบ ลูกเลี้ยงของเธออีกครั้ง โดยบอกพวกเขาว่าเขาต้องทำภารกิจให้สำเร็จ เพื่อ "ช่วยโลก"

การปรากฎตัวของทรงกลมและทรงกลมขนาดเล็กอื่น ๆ ที่เริ่มปรากฏขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง กองทัพได้ส่งโดรนโจมตีทรงกลมดังกล่าว แต่ถูกหุ่นยนต์ขัดขวาง กองทัพใช้แนวทางที่ไม่ใช้อาวุธ โดยล้อมหุ่นยนต์อย่างระมัดระวัง ซึ่งต่อมาได้ชื่อเล่นว่า "กอร์ท  " (เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่จัดระเบียบทางพันธุกรรม) และขนส่งไปยัง โรงงานใต้ดินภูเขาอากาศในเวอร์จิเนีย

คลาทูได้พบกับมนุษย์ต่างดาวอีกคนชื่อมิสเตอร์วู ซึ่งอาศัยอยู่บนโลกมาหลายปีแล้ว วูบอกกับคลาทูว่ามนุษย์เป็นพวกชอบทำลายล้าง ดื้อรั้น และไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงกับประสบการณ์ของคลาทู 

อย่างไรก็ตาม มิสเตอร์วูยังบอกกับคลาทูด้วยว่าเขาตั้งใจที่จะอยู่บนโลกต่อไป เพราะเขาเริ่มรักคนพวกนี้แล้ว คลาทูสั่งให้ทรงกลมขนาดเล็กเก็บตัวอย่างสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อเก็บรักษาไว้เพื่อนำกลับมายังโลกในภายหลัง เขาชี้แจงให้เฮเลนทราบว่าเขาตั้งใจจะช่วยโลกไม่ให้ถูกมนุษย์ทำลายล้าง

เฮเลน หวังที่จะโน้มน้าวให้คลาทูเปลี่ยนใจเกี่ยวกับมนุษยชาติ จึงพาเขาไปหาศาสตราจารย์บาร์นฮาร์ดต์ ผู้ได้รับ รางวัลโนเบลพวกเขาหารือกันว่าเผ่าพันธุ์ของคลาทูผ่านวิวัฒนาการร่วมกันอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันไม่ให้ดาวเคราะห์ของพวกเขาล่มสลาย บาร์นฮาร์ดต์วิงวอนว่าโลกก็อยู่บนหน้าผาเดียวกัน และมนุษยชาติควรได้รับโอกาสในการเข้าใจว่ามันก็ต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน เจคอบก็เรียกเจ้าหน้าที่มาจับกุมคลาทู

ขณะที่กองทัพกำลังตรวจสอบ กอร์ทหุ่นยนต์ก็แปลงร่างเป็นฝูงนาโนแมชชีน ที่มีปีกคล้ายแมลง ซึ่งสามารถขยายพันธุ์ตัวเองได้เมื่อกินวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นทุกชิ้น ที่ขวางทางฝูงหุ่นยนต์ก็กลืนกินทั้งโรงงาน ในไม่ช้า และโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินเพื่อกินอาหารต่อไป

กองทัพ จับตัวเฮเลนได้ ในขณะที่คลาทูและเจคอบหลบหนีด้วยการเดินเท้า ระหว่างการเดินทางคลาทูได้เรียนรู้เกี่ยวกับมนุษยชาติมากขึ้นผ่านเจคอบ เมื่อเจคอบติดต่อเฮเลนและนัดพบกันที่หลุมศพของพ่อ เลขาธิการจึงส่งเธอไปพยายามเปลี่ยนความคิดของคลาทู ที่หลุมศพ เจคอบเสียใจที่คลาทูไม่สามารถชุบชีวิตพ่อ ที่เสียชีวิตไปนานแล้วของเขาขึ้นมาได้ เมื่อเฮเลนและเจคอบกลับมาพบกันอีกครั้ง การสังเกตมนุษย์ของคลาทูทำให้เขาตัดสินใจหยุดฝูงมนุษย์

แกรนิเยร์ พาพวกเขาไปที่ เซ็นทรัลพาร์คสเฟียร์ แต่ฝูงแมลงได้ขยายขนาดขึ้นอย่างมาก คลาตูลากฝูงแมลงไปที่ทรงกลม และสัมผัสมันก่อนที่ร่างกายของเขาจะถูกกลืนกิน ทรงกลมทำให้ฝูงแมลงหยุดทำงาน ช่วยมนุษยชาติไว้ได้ แต่ก็ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดบนโลก หยุดทำงานเช่นกัน เมื่อทรงกลมขนาดยักษ์ออกจากโลกไป

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ : 

เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบไปแล้วนั้น เรื่อง The Day the Earth Stood Still (2008) วันพิฆาตสะกดโลก หนังเรื่องนี้ติดอันดับ 202 ใน 250 อันดับหนังยอดเยี่ยมของ IMDb ข้อความที่สื่อถึงยุคนิวเคลียร์ ก็คือมนุษยชาติจะถูกกำจัดหากเราไม่หยุดฆ่ากันเอง ข้อความของหนังเวอร์ชันปี 2008 คือเราควรโหวตให้อัล กอร์เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีคลาทูกับกอร์ต 2umv.com

นั่นคือสิ่งที่ต้องการ จริง ๆ แล้วคลาทูไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่ข้อความของเขาชัดเจน: ดาวเคราะห์ที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตได้นั้นหายากมากจนมนุษย์ต่างดาว ที่ไม่สามารถให้เราทำลายชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องฆ่าเรา

มนุษย์ต่างดาวมีความก้าวหน้ามากพอที่จะเดินทางผ่านกาแล็กซีได้ แต่ไม่เคยค้นพบวิวัฒนาการ ซึ่งน่าจะทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่าชีวิตบนโลกจะอยู่รอดได้แม้มนุษย์จะตายไปแล้ว ลูกโลกในอวกาศของพวกมันได้ตกลงมาบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง และสิ่งมีชีวิตมากมายได้รีบรุดเข้าไปข้างใน และผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงกลาโหมก็เกิดความรู้สึกว่า "พวกมันคือเรือโนอาห์! 

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป" รัฐมนตรีกลาโหม เอ่ยขึ้นว่า "น้ำท่วมโลก" นี่จึงเป็นภาพยนตร์ไซไฟเรื่องแรกที่อิงจากแนวคิดการออกแบบอย่างชาญฉลาด แต่มนุษย์ต่างดาวมีแผนที่ จะช่วยชีวิตทุกรูปแบบยกเว้นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา

“The Day the Earth Stood Still” เป็นภาพยนตร์ที่สั่งสอนผู้อื่นอย่างเจ็บปวด (หรืออาจเป็นเพียงความจริงที่ไม่สะดวกใจ) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการช่วยโลกจากธรรมชาติของมนุษย์ที่โหดร้ายและทำลายล้าง จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อมีคนยิงปืนใส่ทางเข้าของมนุษย์ต่างดาวของคลาทูทันที ขณะที่เขายื่นมือต้อนรับเบนสัน นักวิทยาศาสตร์ การมีส่วนร่วมของกองทัพถูกแสดงให้เห็นในแง่ลบโดยสิ้นเชิง โดยทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อทำลายหุ่นยนต์กอร์ท ขนาดใหญ่เพื่อนำไปสู่การประหารชีวิตทั่วโลกโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องดีที่เด็กที่น่ารำคาญและจู้จี้จุกจิกกับแม่ที่ชอบงอนของเขาสามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่เหมาะสมในประชากรทั้งหมดได้ และผู้รุกรานจากต่างดาวสามารถโน้มน้าวใจ (หรือถูกชักจูง) ได้ง่าย

ภาพยนตร์ยาวๆ ทั้งหมดที่ออกฉายในซีซั่นนี้ “The Day the Earth Stood Still” ควรจะยืดเวลาออกไปอีกหน่อย หรืออย่างน้อยก็ควรเน้นเวลาอันมีค่าให้มากขึ้นในการเพิ่มรายละเอียดตัวละครและสร้างโครงเรื่องที่สมเหตุสมผล เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่ฉากหลายฉากกลับเสียเปล่าไปกับการใช้เทคนิคพิเศษซึ่งไม่ได้เพิ่มอะไรให้กับนิยายวิทยาศาสตร์ที่น่าเบื่อมากนัก โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่มี CG ที่น่าประทับใจมากมาย

#ดูหนังออนไลน์ #TheDaytheEarthStoodStill #วันพิฆาตสะกดโลก

กลับด้านบน